สัตว์ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการค้นหาอาหารอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้นตามการศึกษาของนักวิจัยจาก Imperial College London และ Zoological Society of London (สหราชอาณาจักร) และได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร 'Nature Ecology & Evolution'
และมันก็คือสัตว์กินเนื้อขนาดกลางเช่นปูจิ้งจอกหรือแมวเบงกอลต้องหาอะไรใส่ปาก พวกเขาต้องเดินทางในระยะทางที่ยาวขึ้นเรื่อย ๆ โดยการตัดไม้ทำลายป่าและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เพื่อให้ได้ข้อสรุปดังกล่าวนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์กินเนื้อจากทั่วโลกตั้งแต่เสือจนถึงวีเซิล ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถแสดงให้เห็นว่า สายพันธุ์ขนาดกลางนั่นคือพวกที่มีน้ำหนักระหว่าง 1 ถึง 10 กิโลกรัมใช้เวลาเกือบทั้งวันในการหาอาหารซึ่งทำให้พวกเขาเครียดมากและส่งผลเสียต่อสุขภาพของพวกเขา
ตามที่ Samraat Pawar จาก Department of Life Sciences ที่ Imperial College London พวกเขาเสนอแบบจำลองทางคณิตศาสตร์อย่างง่ายที่ทำนายว่าเวลาในการให้อาหารขึ้นอยู่กับขนาดของร่างกายของสัตว์อย่างไร »สิ่งนี้สามารถช่วยทำนายความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับสัตว์นักล่าที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม». โมเดลดังกล่าวได้รับการพัฒนาโดยทีมงานซึ่งใช้ข้อมูลที่รวบรวมผ่านวิธีการติดตามเช่นปลอกคอวิทยุและ GPS โดยรวมแล้วมีการตรวจสอบข้อมูลจากสัตว์กินเนื้อในบก 73 ชนิด
ดังนั้นพวกเขาจึงพบว่าสัตว์กินเนื้อขนาดกลางมองหาอาหารได้นานกว่าเพราะ พวกมันกินเหยื่อซึ่งเมื่อเทียบกับร่างกายแล้วมีขนาดเล็กจึงจับได้เร็วกว่าและยากมาก. ในการนี้จะต้องเพิ่มการสูญเสียที่อยู่อาศัยซึ่งทำให้นักล่าล่าได้ยากขึ้น
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมโปรดทำ คลิกที่นี่ เพื่ออ่านการศึกษาเป็นภาษาอังกฤษ